เมนู

คือ เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรมและโลภะ
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของ
เหตุปัจจัย.
เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

2. อารัมมณปัจจัย


[547] 1. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ขันธ์ทั้ง
หลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงถามถึงมูลในแม้ทั้ง 3 วาระ (วาระที่ 1-3)
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ขันธ์ทั้งหลายที่
เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตธรรม ขันธ์ทั้งหลายที่
สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น, ขันธ์
ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.
4. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ แล้วพิจารณา
กุศลกรรมนั้น.
บุคคลพิจารณากุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน.
บุคคลออกจากฌาน แล้วพิจารณาฌาน.
พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรคแล้ว พิจารณามรรค, พิจารณาผล,
พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล, แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสทั้งหลายที่ละแล้ว ที่เป็นคันถวิปป-
ยุตตธรรม, พิจารณากิเลสทั้งหลายที่ข่มไว้, ย่อมรู้กิเลสทั้งหลายที่สั่งสมไว้ใน
กาลก่อน.
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถ-
วิปปยุตตธรรม โลภะ และปฏิฆะ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี
ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ราคะ ที่เป็นคันถวิปปยุตต-
ธรรม ย่อมเกิดขึ้น วิจิกิจฉา ฯลฯ อุทธัจจะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม
ด้วยเจโตปริยญาณ.
อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ, อากิญจัญ-
ญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ.

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ
แก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่
อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
5. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ ย่อมยินดี
ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งกุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น ราคะที่
เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
6. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือบุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ฯลฯ เพราะปรารภขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม โลภะ และปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคต
ด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เเละโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย
โทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.
7. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอํานาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปป-
ยุตตธรรม และโลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ ขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ 8)
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม, โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย
ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พึงถามถึงมูล (วาระที่ 9)
เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตต-
ธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย
ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่
สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

3. อธิปติปัจจัย


[548] 1. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตต-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิปติธรรมที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.